“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโร่นักบิดชาวไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เดินทางแตะแผ่นดินเกิดอย่างเป็นทางการ พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นของแฟนชาวไทย หลังสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรกที่คว้าอันดับ 6 ของโลก ถือเป็นอันดับโลกที่สูงที่สุดที่นักแข่งไทยเคยทำได้ ในระดับ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ จาก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ด้วยผลงาน 2 โพเดียม 1 ชัยชนะในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวขอบคุณทุกแรงใจที่ผลักดันสู่ความสำเร็จ พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นในอนาคต
“ก้อง-สมเกียรติ” เพิ่งสร้างผลงานร้อนแรงด้วยการคว้าอันดับ 5 ส่งท้ายศึก โมโตทู 2023 สนามสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำภารกิจลงทดสอบรถแข่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่ เซอร์กิต ริคาร์โด ตอร์โม เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน
โดยล่าสุดเมื่อเช้าวันพุธที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “ก้อง-สมเกียรติ” ได้เดินทางถึงแผ่นดินไทยอย่างเป็นทางการ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังสู้ศึกหนักตลอดทั้งฤดูกาล 20 สนาม โดยมีผู้บริหารจาก ไทยฮอนด้า และแฟนชาวไทยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
“ก้อง-สมเกียรติ” กล่าวว่า “ในปีนี้ผมและทีมได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อไปสู่เป้าหมายท็อป 5 ของโลกในรุ่น โมโตทู แม้จะจบในอันดับ 6 ของโลก ผมต้องขอขอบคุณกำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องชาวไทย ที่เป็นแรงผลักดันผมอย่างดีครับ”
“ผมขอขอบคุณ ไทยฮอนด้า ที่สนับสนุนผมอย่างเต็มที่ในฐานะนักแข่งจากประเทศไทย และเราได้แสดงให้เห็นว่าคนไทยก็สามารถทำได้ในการแข่งขันระดับโลก ซึ่งผมจะพัฒนาต่อไปเพื่อก้าวสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นในอนาคต” สมเกียรติ เผย
นักบิดขวัญใจชาวไทยเจ้าของหมายเลข 35 จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ยกระดับอย่างต่อเนื่องในศึก โมโตทู ชิงแชมป์โลกประจำฤดูกาล 2023 จนคว้าแต้มมาได้ถึง 173.5 คะแนน รั้งท็อป 6 บนอันดับชิงแชมป์โลก
ผลงานที่สร้างประวัติศาสตร์เพิ่มคือการคว้าชัยชนะในศึก เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ที่ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการสร้างสถิติทลายเวลาต่อรอบตลอดกาลของสนาม โมเตกิ จากการคว้าโพลโพซิชั่น, ทุบสถิติเวลาที่เร็วที่สุดในการแข่งขัน ขณะเดียวกันยังปลดล็อคขึ้นโพเดียม “โฮมเรซ” ในศึก ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ อย่างยิ่งใหญ่ โดยนับเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำได้
ทั้งนี้ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จะเดินหน้าลุยศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้า โดยยกระดับเป้าหมายและมุ่งหน้าสู่การแข่งขัน โมโตจีพี ให้ได้ในปี 2025 ตามโร้ดแม็ปของโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม”
