คู่หูนักบิด มอนสเตอร์ ยามาฮ่า อย่าง อเล็กซ์ รินส์ และ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ฝ่าด่านหินในศึกโมโตจีพี 2024 สนาม 11 ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ที่ เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ด้วยสถานการณ์สุดหิน เผยต้องทำงานหนักเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคตสำหรับรถแข่ง “ยามาฮ่า”
ศึกโมโตจีพี 2024 สนาม 11 รายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ เรดบูล ริง เมืองสปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรีย โดยเกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 28 รอบสนาม
ผลปรากฏว่า อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชหมายเลข 42 จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 21 แต่สามารถไล่บดขึ้นมาจบเรซในอันดับ 16 ส่วน ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ทีมเมทชาวฝรั่งเศสหมายเลข 20 เริ่มเกมจากกริดที่ 15 ไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 11 ในรอบแรก ก่อนจะเจอปัญหาเล่นงานและรับโทษ “ลองแล็ป” จนรูดลงไปจบเรซในอันดับ 18
รินส์ เปิดเผยว่า “มันคือเรซที่ยากสุดๆ ยากที่จะจบการแข่งขัน ด้วยปัจจัย 2 อย่าง ลำดับแรกคืออุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่น และลำดับ 2 ผมมีปัญหาเล็กน้อยกับรถแข่งตลอดทั้งสุดสัปดาห์ มันน้อยกว่าวันเสาร์ เพราะเราปรับปรุงได้นิดหน่อยในการเซ็ตอัป แต่ก็ยากมากที่จะคุมให้ยางหลังเกาะอยู่กับผิวแทร็กเมื่อล้อหลังยก ทำให้เราต้องพยายามคุมเบรกหน้า แต่ก็มีอาการเบรกล็อกในบางครั้ง”
“อย่างไรก็ตามผมก็ภูมิใจกับตัวเองที่ควบคุมสถานการณ์นี้ได้ และทำงานอย่างคงที่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้ ตอนนี้เราจดจ่อไปที่การทดสอบที่ มิซาโน ผมพร้อมลงสนามเทสต์แล้วเพื่อพัฒนารถแข่งร่วมกับทีม” รินส์ ทิ้งท้าย
ด้าน กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ชัดเจนว่าเป็นสุดสัปดาห์ที่เลวร้ายของเรา เราคาดหวังมากกว่านี้ โดยเฉพาะจากการแข่งขันในวันนี้ เราจบเรซห่างไกลจากกลุ่มหน้าเยอะมาก ดังนั้น เรามีงานหนักต้องทำ เพราะเราต้องการเปลี่ยนแปลงอนาคต”
ทั้งนี้ โมโตจีพี 2024 สนามถัดไปจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน ในรายการ อรากอน กรังด์ปรีซ์
