นอกเหนือจาก WORLD PREMIERE MODELS ทั้ง 6 รุ่น นี้แล้ว ยามาฮ่ามอเตอร์ ยังนำผลิตภัณฑ์ และโปรดักส์อื่นๆ ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำมาร่วมจัดแสดงได้แก่
* TMW (ทีเอ็มดับบิว)
รถจักรยานยนต์ 3 ล้อ แบบไฮบริด ที่ถูกสร้างสรรค์โดยทีมวิศวกรอาสาสมัครจากทีมทดสอบรถของยามาฮ่า รถจักรยานยนต์ TMW เป็นรถสไตล์ออฟโรดสามล้อที่ใช้เทคโนโลยี Leaning Multi-Wheel (LMW)* และระบบคานรองรับขนาดใหญ่ด้านหน้าของ LMW จะคงระดับกับพื้นไม่ว่าจะรถเอียงหรือเลี้ยวก็ตาม พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่นี้ยังดึงดูดผู้ใช้ให้ออกไปผจญภัยอีกด้วย TMW ยังเป็น HYBRID ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าด้วย Hub Motor และล้อหลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ *เทคโนโลยีของ Yamaha Motor ที่สองล้อหน้าเคลื่อนไหวอย่างมีอิสระและมีความสามารถในการปรับตัวสำหรับสภาพพื้นถนนต่างๆ
* YXZ1000R (Hydrogen-Engine)
ยานพาหนะเพื่อการเดินทางด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นพลังงานไฮโดรเจน 100% โดย YXZ1000R คันนี้ เป็นยานพาหนะที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนคันนี้มีจุดเริ่มต้นจากความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในอากาศ เครื่องยนต์ไฮโดรเจนมีศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะที่สูงในขณะที่ยังคงมีการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทำลายชั้นบรรยากาศของโลก โดย Yamaha Motor กำลังศึกษาศักยภาพดังกล่าวโดยมีการพยายามที่จะรักษาเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ เช่นเสียง และความรู้สึกเมื่อรถเคลื่อนที่เหล่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
* Mobile Robot Arm
หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานแบบเคลื่อนที่ (mobile collaborative robot or Cobot) ถูกนำมาใช้ปฏิบัติงานแทนที่แรงงานคน ร่วมกับรถเข็นอัตโนมัติ แขนหุ่นยนต์ 7 แกนทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นเดียวกับแขนของมนุษย์และด้วยการออกแบบของ Cobot ทำให้ Mobile Robot Arm สามารถทำงานได้ในพื้นที่จำกัดเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยสามารถเคลื่อนไหวและเลียนแบบการเคลื่อนไหวของมนุษย์ รวมถึงการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้
* Real Sound Viewing
เป็นระบบที่กำลังพัฒนาโดย บริษัท ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น มีแนวคิดมาจาก vacuum-packed live performance ซึ่งต้องการเก็บรักษาผลงานของศิลปิน เพื่อจัดให้มีการแสดงซ้ำได้อีกชนิดสมจริง โดยผสมผสานเทคโนโลยีใหม่เช่นการแปลงเสียงเป็นรูปแบบดิจิตัล (sound digitizing) และใช้เทคโนโลยี TransAcoustic ของยามาฮ่า ด้วยการเข้าถึงภาพหน้าจอทำให้ผู้ชมได้รับความเพลิดเพลินจากการแสดงของศิลปินที่ถูกบัญทึกไว้ได้ราวกับการเข้าร่วมรับชมการแสดงสด
* Active Field Control
คือระบบควบคุมภาพ และเสียงของยามาฮ่า ที่ให้ผู้ใช้สร้างสภาพแวดล้อมทางเสียงในอุดมคติ AFC Enhance สามารถควบคุมเสียงก้องของพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ AFC Image สามารถควบคุม แยกแยะภาพ และเสียงในตำแหน่งใดก็ได้ ระบบนี้ตอบสนองความต้องการของการผลิตเสียงที่ซับซ้อนในการใช้งานที่หลากหลาย AFC จะถูกนำมาใช้ที่บูธของยามาฮ่า ทั้งหมดในงานปีนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำที่เหนือกว่า
* CHARLIE Yamaha Corporation ให้ชีวิตทุกๆ วันเติมเต็มด้วยเสียงเพลง
Charlie เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร โดยบริษัท ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น Charlie ใช้เทคโนโลยี VOCALOID และเทคโนโลยีการสร้างเพลงอัตโนมัติ (VOCALOID and Automatic Song Creation Technologies) ในการโต้ตอบกับคู่สนทนา ทำให้การโต้ตอบบทสนทนาของ Charlie กลายเป็นท่วงทำนองที่ทำให้คู่สนทนารู้สึกผ่อนคลาย สำหรับหุ่นยนต์ Charlie ที่จะจัดแสดงที่บูธของยามาฮ่า ในงาน Japan Mobility Show 2023 เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามาเป็นพิเศษ โดยการผสมผสานการใช้เทคโนโลยี AI-based learning and tuning เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนท่าทางการแสดงออก รวมทั้งการใช้ Song Production AI ในการสร้างสรรค์เพลงใหม่ ของ Charlie
* Rock me on
ม้าโยกไม้ที่ถูกออกแบบให้เป็นได้ทั้งของเล่นชิ้นแรก และเครื่องดนตรีเครื่องแรกของเด็กๆ ทำให้มันถูกเรียกในเชิงสัญลักษณ์ว่า “My First Yamaha” หรือ “ยามาฮ่าชิ้นแรกของฉัน” ผลงานชิ้นนี้ถูกจัดแสดงที่นิทรรศการ “You Are Here” โดย ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ที่งาน Milan Design Week 2023 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานนิทรรศการผลงานการออกแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
Solo & Classic
ขาตั้งกีตาร์โปร่งและโครงกีตาร์คลาสสิกถูกออกแบบเพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ในครัวเรือนโดยบริษัท ยามาฮ่าคอร์เปอเรชั่น เพื่อทำให้บรรยากาศในการใช้ชีวิตกับเครื่องดนตรีมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ผลงานออกแบบทั้งสองชิ้นถูกผลิตโดยบริษัทเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ Mexarts ในขณะที่เล่นกีตาร์ Solo สามารถเปลี่ยนเป็นเก้าอี้สูงได้ ในขณะที่ โครงกีตาร์ Classic นั้นสามารถใช้เป็นม้านั่งได้
* TY-E 2.2 Challenge, advance, go beyond ความท้าทาย และการก้าวไปข้างหน้า
รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด “TY-E 2.2” ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นมาจากการริเริ่มในการสร้างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของเรา “TY-E” ที่เปิดตัวในปี 2018 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นเอกลักษณ์ในการพยายามบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนที่เป็นรูปธรรม จากแนวคิด “FUN × EV” ที่ต้องการพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายเพื่อ “enjoyment beyond internal combustion engine” โดยผสานการใช้แรงบิดความเร็วต่ำอันทรงพลังและอัตราการเร่งความเร็วของรถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (EVs) “TY-E 2.2” มีน้ำหนักเบากว่าและแข็งแรงกว่า เป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงความแข็งแกร่งของโครงสร้างและตัวจัดการความร้อนของตัวเครื่องให้ทำงานได้ดีขึ้น รวมทั้งการติดตั้งส่วนประกอบใหม่ๆ เช่น motor controller
* HARMO
HARMO คือ “แพลตฟอร์มระบบขับเคลื่อนเรือไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่” ที่พัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเรือโดยสารไฟฟ้าอัจฉริยะที่นอกจากจะมอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารแล้ว ยังเคลื่อนที่อย่างเงียบเชียบ อันเป็นเอกลักษณ์ของยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า HARMO ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และสามารถควบคุมจากระยะไกลโดย remote-control box และจอยสติ๊กที่ช่วยให้การใช้งานได้ง่ายและสะดวก มอเตอร์ของเครื่องใช้วิธีการขับเคลื่อนแบบ Rim Drive Method * เพื่อให้เกิดระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ให้เกิดแรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งที่ความเร็วต่ำ ระบบการควบคุมที่ง่ายและสะดวก ลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนลงอย่างเห็นได้ชัดขณะใช้งาน
ติดตามนวัตกรรมล้ำสมัยจาก YAMAHA MOTOR และ YAMAHA CORPORATION ในงาน Japan Mobility Show 2023 โดยท่านที่สนใจสามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่
และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.yamaha-motor.co.th หรือที่ Facebook: Yamaha Society Thailand