“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี พร้อมด้วยทีมเมทชาวสแปนิชอย่าง อเล็กซ์ รินส์ ลงทดสอบรถแข่ง M1 ต้นแบบตัวใหม่ ที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน ด้วยการทำเวลารั้งรองจ่าฝูง หวังเดินหน้ายกระดับการทดสอบครั้งต่อไป
การทดสอบหลังจบฤดูกาล 2024 ของ โมโตจีพี มีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นที่ เซอร์กิต เด บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า ประเทศสเปน
กวาร์ตาราโร และ รินส์ ร่วมกับ ทีมทดสอบของ ยามาฮ่า เริ่มต้นทำงานอย่างหนักกับรถแข่ง M1 ต้นแบบตัวใหม่ ที่ได้รับการอัปเดต “แชสซีส์” และ “เครื่องยนต์ใหม่” ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีในหลายด้าน
โดย กวาร์ตาราโร ลงบิดไปทั้งสิ้น 75 รอบสนาม รั้งอันดับ 2 ของการทดสอบด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.199 วินาที ตามหลังจ่าฝูง 0.396 วินาที ส่วน รินส์ รั้งอันดับ 8 ด้วยเวลา 1 นาที 39.568 วินาที ตามหลัง 0.765 วินาที
กวาร์ตาราโร เปิดเผยว่า “เราทดสอบชิ้นส่วนหลายอย่าง ซึ่งมันให้ผลเป็นบวกมาก ผมคิดว่าแนวทางที่ ยามาฮ่า ทำในตอนนี้ถือว่ามาถูกทาง แชสซีส์ ที่ได้รับการอัปเดตดูดีเลยละ รวมถึงเครื่องยนต์ด้วย ซึ่งมันมีพัฒนาการก้าวกระโดดในการทดสอบที่นี่ การขยับตัวครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นที่ เซปัง แต่ผมคิดว่ามันเป็นวันที่ดีของเรา และผมก็สนุกกับการบิดรถแข่งคันใหม่ เราสามารถทดสอบมันในทางที่ควรจะเป็น แม้จะยังไม่ได้เค้นเพื่อหาเวลาต่อรอบก็ตาม”
ทั้งนี้ กวาร์ตาราโร และ รินส์ มีแผนทดสอบแบบส่วนตัวร่วมกับ ยามาฮ่า ที่ มาเลเซีย ในเดือนธันวาคมนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่การทดสอบรถแข่งต้นแบบ M1 พร้อมเครื่องยนต์ V4 ที่ได้รับการอัปเดตต่อเนื่อง โดยมีความหวังจะใช้งานในฤดูกาล 2025
