กระแส “โมโตจีพี” กำลังได้รับความนิยมอย่างหนักในเมืองไทย จนกลายเป็น “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ทั่วทั้งประเทศ ล่าสุดบรรดานักบิดดาวดังนำโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกจาก ยามาฮ่า, มาร์ค มาร์เกซ ผู้ชนะไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2 สมัย และ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ตัวเต็งแย่งแชมป์โลกจาก ดูคาติ และทีมเมทอย่าง แจ็ค มิลเลอร์, อเลช เอสปาร์กาโร และ มาเวริค บีญาเลส จาก อพริเลีย เรซซิ่ง พร้อมด้วยทัพนักบิดซูเปอร์สตาร์ เดินทาง จ.บุรีรัมย์แล้ว เพื่อเตรียมระเบิดความมันส์ในศึก โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2022 สนาม 17 รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน-2 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พบว่าตอนนี้มีความคึกคักอย่างมาก หลังจากที่บรรดาทีมแข่งและนักบิดหลายร้อยชีวิตเดินทางถึง จ.บุรีรัมย์ แล้ว
โดยนับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีนักบิดในรายการ โมโตจีพี เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย ก่อนจะเข้าร่วมกิจกรรมโปรโมตการท่องเที่ยวไทยที่ “เวทีมวยราชดำเนิน” ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก
ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 28 กันยายนนี้ ทัพนักบิดโมโตจีพีนำโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี, มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า เจ้าของชัยชนะ 2 ครั้งแรกที่ บุรีรัมย์, ฟรานเชโก้ บันยาญ่า นักบิดอิตาเลียนจาก ดูคาติ เลโนโว ทีม, ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดสแปนิชจาก พรามัค เรซซิ่ง
นอกจากนี้ยังมี ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ตัวเต็งแย่งแชมป์โลกจาก ดูคาติ และทีมเมทอย่าง แจ็ค มิลเลอร์, อเลช เอสปาร์กาโร และ มาเวริค บีญาเลส สองนักบิดกระทิงดุจาก อพริเลีย เรซซิ่งและทัพนักบิดหลายสิบคนได้เดินทางถึง ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ แล้ว สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนมอเตอร์สปอร์ต และชาวบุรีรัมย์อย่างมาก
ขณะที่รายงานจาก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันพุธนี้ พบว่าทีมงาน ดอร์น่าสปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ และฝ่ายจัดการแข่งขันในเมืองไทยได้เร่งมือเตรียมความพร้อมอย่างหนัก ท่ามกลางฝนที่เทกระหน่ำอย่างไม่ขาดสายจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น “โนรู” รวมถึงทีมแข่งที่เริ่มต้นเข้าเซ็ตอัพพิตก่อนเข้าสู่การแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ศึกโมโตจีพี รายการ โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022 จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 30 กันยายน ก่อนจับเวลารอบควอลิฟายในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม2565 โดยจะถ่ายทอดสดไปยัง 207 ประเทศ ผู้ชมกว่า 800 ล้านคนทั่วโลก
